ช่วยแนะนำอาหารเกาหลีดีๆให้หน่อยได้ไหม

ชาย : อันที่จริง ฉันอยากลองชิมอาหารเกาหลีบ้างจัง แต่ไม่รู้ว่าคืออะไร มีคำแนะนำไหมคะ
หญิง: อาหารเกาหลีจะมาจากแหล่งเฉพาะหรือมาจากบางอย่างที่คนเกาหลีทั่วทุกที่ชื่นชอบอาหารประจำท้องถิ่นจะทำมาจาก วัตถุดิบที่หาจากแหล่งนั้นๆได้ง่าย อาหารซึ่งเป็นที่ชื่นชอบของคนเกาหลีส่วนใหญ่นั้นเราจะ พบได้ทั่วไปทุกที่รวมมีทั้งกิมจิ, คิมบั๊ปและบูลโกกิ กิมจิเป็นอาหารที่ขึ้นชื่อที่สุดของเกาหลี นอกจากนี้กิมจิ ยังเป็นอาหารส่งออกไม่ใช่แค่เฉพาะที่ญี่ปุ่น จีนและประเทศอื่นๆในภูมิภาคแถบเอเชียเท่านั้น แต่ยังส่งไปขายยัง สหรัฐอเมริกาและยุโรปอีกด้วย

bulgogi
ไม่ใช่แค่นักท่องเที่ยวส่วนใหญ่เท่านั้นแต่คนเกาหลีมากมายก็ชื่นชอบบูลโกกิ บูลโกกินั้นทั้งสด หอมหวานชุ่มฉ่ำ และยังใช้เวลาเตรียมอาหารจานอร่อยนี้ในเวลาอันแสนสั้นอีกด้วย นี่คือเหตุผลว่าทำไมบูลโกกิจึงเป็นอาหาร ยอดนิยมอันดับ1ในบรรดาอาหารเกาหลี เวลาทานบูลโกกิเราจะนิยมห่อในใบผักกาดหอม ใบงาหรือใช้ใบไม้ ชนิดอื่นๆซึ่งจะเป็นการช่วยดึงรสชาติแท้จริงของบูลโกกิออกมาและยังช่วยเพิ่มคุณค่าด้านโภชนาการเมื่อเทียบ กับการทานบูลโกกิอย่างเดียว ด้วยเหตุนี้เมื่อเราสั่งบูลโกกิเราก็จะไม่หิวอีกต่อไปเพราะอุดมไปด้วยคุณค่าทาง โภชนาการและความสุข

- เวลาในการเตรียมอาหาร: 30นาที
- เวลาในการปรุง: 15นาที
- ขนาดรับประทาน: 3 คน

■ ส่วนผสม
เนื้อสันในวัวหั่นบาง 600 กรัม ผักกาดหอมล้างแล้ว 300 กรัม กระเทียม 12กลีบ เห็ด 6 ดอก หอมหัวใหญ่ 1/2ลูก น้ำตาล 3ช้อนโต๊ะ น้ำมันงา 2 ช้อนโต๊ะ ※ ซอสสำหรับหมักเนื้อ: น้ำมันถั่วเหลือง 4 ช้อนโต๊ะ ต้นหอมสับ 4ช้อนโต๊ะ กระเทียมสับละเอียด 1 ช้อนโต๊ะ งา 2 ช้อนโต๊ะ ไวน์ข้าว 2 ช้อนโต๊ะ พริกไทย

■ วิธีทำ

1. หั่นเห็ด หัวหอมและกระเทียมเป็นชิ้นบางๆ
2. คลุกเนื้อสันในวัวที่แล่บางแล้วกับน้ำตาลและน้ำมันงา
3. ผสมซอสถั่วเหลือกับต้นหอมหั่น กระเทียมสับ งา ไวน์ข้าวและพริกไทย เคล้าในถ้วยให้เข้ากัน
4. ใส่เนื้อสันในวัวลงในถ้วยและ หมักไว้ 30นาที
5. ตั้งกระทะให้ร้อนโดยใช้ไฟปานกลาง ใส่เนื้อหมักลงไปในกระทะ
6. ใส่เห็ด หัวหอมและกระเทียมที่หั่นบางๆไว้แล้วลงไปในกระทะจนกระทั่งสุกดี
7. เสิร์ฟกับผักกาดหอม
※ การรับประทานแบบเกาหลีคือการห่อเนื้อบูลโกกิกับผักย่างไว้ในผักกาดหอม

Tteokguk
การรับประทานอิต็อกกุ๊กถือเป็นประเพณีเก่าแก่ของชาวเกาหลี การมีถ้วยอิต็อกกุ๊กก็เหมือนบอกเป็นนัยว่า “แก่ขึ้นอีกปีแล้วนะ!” ดังนั้นจึงมีเรื่องตลกขบขันเกี่ยวกับอาหารจานนี้ออกมา การกล่าวโดยทั่วไปว่าถ้าอยาก ให้ตัวเองเด็กลงก็ให้เลี่ยงการกิน อิต็อกกุ๊กในวันซอลลา อย่างไรก็ตามผู้คนก็ยังคงติดใจรสชาติของอิต็อกกุ๊กทุกๆวันปีใหม่อยู่ดี นอกจากนี้ในวันปีใหม่ บริษัทผลิตอาหาร บางบริษัทได้ผลิต อิต็อกกุ๊กสำเร็จรูปออกมาจำหน่ายอีกด้วย ด้วยเหตุนี้ผู้บริโภคสามารถซื้อหาอิต็อกกุ๊กได้โดย สะดวก

- เวลาเตรียม + เวลาในการปรุง: 20-30 นาที
- ขนาดรับประทาน: 3 คน


■ ส่วนผสม
กาเร็ตต็อก (เค้กข้าวของเกาหลี) หั่นบาง 5ถ้วย น้ำ 7ถ้วย เนื้อวัวแล่บาง 100กรัม สาหร่ายแห้ง 2 แผ่น ไข่ 2 ฟอง ต้นหอมสับ
※ เครื่องปรุงรสสำหรับเนื้อวัว: ซอสถั่วเหลือง 1ช้อนโต๊ะ ต้นหอมสับ 1ช้อนโต๊ะ กระเทียมสับละเอียด 1ช้อนโต๊ะ งา 1ช้อนโต๊ะ น้ำมันงา 1 ช้อนโต๊ะ พริกไทย

■ วิธีทำ

1. ล้างกาเร็ตต็อกจากนั้นแช่ในน้ำ 5นาที
2. แยกไข่แดงจากไข่ขาว, คนไข่แดงและไข่ขาวแยกกัน
3. ทอดไข่ที่คนแล้วให้เป็นแผ่นบางๆด้วยไฟอ่อน จากนั้นหั่นเป็นชิ้น ขนาด 0.5ซม. ×3 ซม
4. แผ่แผ่นสาหร่าย
5. ใส่เนื้อวัวแล่บางและน้ำซอสปรุงรสที่เตรียมไว้ลงไปในหม้อ ผสมให้เข้ากัน
6. ปรุงจนกระทั่งเนื้อวัวสุกดี เติมน้ำเปล่าแล้วนำไปต้ม
7. เติมกาเร็ตต็อกที่แช่เอาไว้ลงไปในน้ำที่ต้มอยู่ ต้มต่อจนกว่ากาเร็ตต็อกจะลอยขึ้นมา
8. ใส่ต้นหอมสับลงไปในหม้อ
9. เท อิต็อกกุ๊กที่ทำเสร็จแล้วลงไปในถ้วย โรยหน้าด้วยไข่แดง ไข่ขาวที่ทอดเป็นแผ่นหั่นฝอยและสาหร่าย

Kimchi
แน่นอนว่ากิมจิถือเป็นอาหารเกาหลีอันดับหนึ่ง มีการพิสูจน์แล้วว่ากิมจิมีประโยชน์ต่อร่างกาย นอกจากคงไม่มี ใครลืมรสชาติอันน่าจดจำนั้นได้ กิมจิมีกว่า100 ชนิด ขึ้นอยู่กับภูมิภาคและบรรดากิมจิทั้งหมดนี้ บอสสัม กิมจิ ถือเป็นกิมจิที่ขึ้นชื่อที่สุด "บอสสัม"หมายถึงการห่อบางอย่างไว้ในผ้า บอสสัม กิมจิจึงหมายถึง “การห่อไว้ด้วย ใบไม้” และบรรจุส่วนผสมอันหลากหลายตั่งแต่เกาลัดยันแผ่นเนื้อวัวแล่หรืออะไรก็ตามที่เราอยากห่อ

- เวลาในการเตรียม: 5 ชั่วโมง
- เวลาในการปรุง: มากกว่า 1 ชั่วโมง

■ ส่วนผสม
กะหล่ำปลีจีน 3 หัว เกลือ 1ถ้วย
※ ไส้: ลูกแพร 1 ลูก หัวไชเท้า 1 หัว ผักชีฝรั่ง 1 กำ ใบมัสตาด 1 กำ กุ้ง 500 กรัม ขิง 100กรัม กระเทียม 18 กลีบ ผงพริกไทยแดง 1 ถ้วย พริกไทยแดงชิ้นเล็ก ½ ถ้วย กุ้งแห้ง 1 ถ้วย ต้นหอม 1 ต้น เห็ดหอม 6 ดอก ลูกสน ½ ถ้วย เกาลัด 10 ลูก

■ ขั้นตอนการเตรียม

1. แบ่งครึ่งกะหล่ำปลีและหมักเกลือไว้ 4 ชั่วโมง กลับด้านกะหล่ำปลีทุกๆ 40 นาที
2. ปอกเปลือกและคว้านไส้ลูกแพร หั่นลูกแพรและหัวไชเท้าเป็นชิ้นเล็กๆบางและยาว
3. ปอกเปลือกลูกเกาลัด ขิงและกระเทียม หั่นให้เป็นริ้วยาวๆ
4. ล้างผักชีฝรั่ง ใบมัสตาร์ดและต้นหอม หั่นให้เป็นชิ้นยาวประมาณ 3 ซม.
5. ล้างและหั่นเห็ดหอมให้เป็นแผ่นบางๆ
6. ปอกเปลือกกุ้งเอาหัว หางและออก
7. ผ่าหลังกุ้งที่ปอกเปลือกแล้วเอาเส้นกลางกุ้งออก หั่นครึ่ง ล้างน้ำเกลือโดยจุ่มเร็วๆแล้วเทน้ำทิ้ง

■ วิธีทำ

1. ล้างกะหล่ำปลีให้ทั่ว แล้วเทน้ำออก
2. หั่นใบนอกของกะหล่ำซึ่งจะมาคลุม บอสสัม กิมจิ
3. คลุกส่วนผสม (ลูกแพร หัวไชเท้า ผักชีฝรั่ง ใบมัสตาร์ด กุ้ง ต้นหอม ผงพริกไทยแดง ขิง กระเทียมและกุ้งแห้ง) ด้วยมือจนเข้ากันดี
4. จัดเรียงใบกะหล่ำไว้บนถาด
5. ใส่ส่วนผสมในขั้นตอนที่ 3 ไป 1 ช้อนโต๊ะบนใบผัก และแต่งหน้าด้วยเห็ด เกาลัดและลูกสน
6. ปิดทับด้วยใบกะหล่ำปลีอีกทีแล้วห่อ
7. หมักไว้อย่างน้อย 3 วันในอุณหภูมิ 20 องศาเซลเซียส พร้อมเสิร์ฟ

bibimbap
บิบิมบัพถือกำเนิดขึ้นที่จอนจูในจังหวัดจอลลา แต่ปัจจุบันรสชาติและกลิ่นกลับเป็นที่ถูกใจนักท่องเที่ยว บิบิมบัพคืออาหารเกาหลีชนิดหนึ่งที่ได้รับความนิยมมาก ด้วยเหตุนี้จึงได้รับเลือกให้เป็นอาหารสำหรับบริการ ผู้โดยสารบนเครื่องบิน บิบิมบัพคือกส่วนผสมของผักหลากหลายชนิด ข้าวและเนื้อวัวปรุงรส ดอลซ็อต บิบิมบัพ จะแตกต่างจากบิบิมบัพธรรมดาเล็กน้อยเนื่องจากวิธีเสิร์ฟ ดอลซ็อต บิบิมบัพจะเสิร์ฟในหม้อดอลซ็อตซึ่งก็คือ หม้อข้าวร้อนที่บรรจุเอาไว้บรรจุของนึ่งต่างๆเช่น ข้าว เกาลัด ถั่วและอื่นๆเอาไว้

- เวลาในการเตรียม: 1 ชั่วโมง 30 นาที
- เวลาในการปรุง: 1 ชั่วโมง
- ขนาดรับประทาน: 3 คน

■ ส่วนผสม
- ข้าว: ข้าวสารธรรมดา 2 ถ้วย ข้าวเหนียว 1 ถ้วย ถั่วแดง 1 ถ้วย ถั่ว 1 ถ้วย เม็ดแปะก๊วย 6 เม็ด เกาลัด 2 ลูก น้ำเปล่า 5 ถ้วย
- พริกไทยแดงต้มข้น: พริกไทยแดงแบบข้น 2 ช้อนโต๊ะ 1 ซอสถั่วเหลือง ½ ช้อนโต๊ะ กระเทียมสับ 1 ช้อนโต๊ะ ต้นหอมสับ 2 ช้อนโต๊ะ น้ำตาล 1 ช้อนโต๊ะ น้ำมันงา 2 ช้อนโต๊ะ งาบด 1 ช้อนโต๊ะ
※ น้ำซอสสำหรับเนื้อ: ซอสถั่วเหลือง 1 ช้อนโต๊ะ ต้นหอมสับ 1 ช้อนโต๊ะ กระเทียมสับ 1 ช้อนโต๊ะ น้ำมันงา 1 ช้อนโต๊ะ พริกไทย เนื้อวัวหั่นบาง 100 กรัม ถั่วงอก 150 กรัม หัวเบลฟลาวเวอร์ 100 กรัม แครอท ½ หัว เห็ดหอม 3 ดอก ใบผักกาดหอม 2 ใบ ไข่ 3 ฟอง น้ำมันงา เกลือ

■ ขั้นตอนการเตรียม

1. แช่ถั่วและถั่วแดงไว้ 24 ชั่วโมงก่อนทำอาหาร
2. ซาวข้าวทั้งข้าวสารธรรมดาและข้าวเหนียว แช่ไว้ 30 นาที
3. ปอกเปลือกเกาลัดแล้วหั่นครึ่ง
4. ตั้งกระทะด้วยไฟอ่อน ทอดเม็ดแปะก๊วยให้เหลืองเล็กน้อย จากนั้นขัดเอาเปลือกออก
5. ลวกถั่วงอก เทน้ำออก ทิ้งให้เย็น
6. นวดรากของดอกเบลฟลาเวอ(พืชชนิดหนึ่งมีดอกคล้ายระฆัง)กับเกลือ ล้างออกแล้วพักให้สะเด็ดน้ำ
7. ล้างแครอท เห็ดหอมและ กะหล่ำปลี หั่นให้เป็นแผ่นบางยาว


■ วิธีทำ

1. ก่อนทำอาหาร 30 นาที เทน้ำที่แช่ข้าวสารและข้าวสารเหนียวออก
2. ใส่ข้าวสารธรรมดา ข้าวเหนียว เกาลัด ถั่วแดง ถั่ว เม็ดแปะก๊วยลงในหม้อข้าวพร้อมด้วยน้ำ
3. ให้ความร้อนด้วยไฟแรงโดยไม่ปิดฝาหม้อ เมื่อเดือดให้เบาไฟลง
4. เมื่อใกล้สุก (ข้าวเริ่มเป็นสีใสๆ) เพิ่มความร้อนเป็นไฟแรงอีกครั้งประมาณ 30 วินาทีแล้วเคี่ยวไว้ 2 นาที
5. ปิดไฟแล้วตั้งทิ้งไว้ 5 นาที ไม่ต้องปิดฝาและคนเบาๆ
6. ตั้งกระทะทอดให้ร้อน ปรุงรสเนื้อสับด้วยซอสน้ำปรุงรสสำหรับเนื้อ ทำให้เนื้อสุกด้วยไฟกลาง
7. ปรุงรสด้วยถั่วงอกที่เย็นแล้วกับน้ำมันงา เกลือและกระเทียมสับ
8. ใส่รากของเบลฟลาวเวอร์ลงในกระทะน้ำมันร้อน คั่วในกระทะด้วยน้ำมันงา กระเทียมสับและเกลือ
9. เผาแครอทเคล้าด้วยเกลือและน้ำมันงา
10. ย่างเห็ดหอมเคล้าด้วยเกลือและน้ำมันงา
11. เตรียมไข่ดาว
12. ใส่พริกไทยแดงต้มข้นด้วยเครื่องเทศที่เตรียมไว้ลงในหม้อ ต้มจนกว่าจะเดือด
13. ตักข้าวใส่ถ้วยใหญ่ จากนั้นใส่ผักและเนื้อวัว เสร็จแล้ววางไข่ไว้บนข้าวและผัก เสิร์ฟกับพริกไทยแดงต้มข้น

doenjang
ดอนจางทำมาจากถั่วหลือง ดอนจางก็คือซอสของเกาหลีนั่นเอง จะใช้เมื่อทำซุปหรือสตูว์หรือแม้กระทั่งเนื้อย่าง แต่สิ่งที่โดดเด่นที่สุดก็คือ ในช่วงฤดูร้อนคนเกาหลีจะผสมโบริบับ (ข้าวบาร์เลย์นึ่ง) กับสตูว์ดอนจาง เรียกว่า "ดอนจาง จีแก" (แหม แค่คิดน้ำลายก็จะไหลแล้ว) ไม่ใช่แค่มีรสชาติที่ลืมไม่ลงเท่านั้น ยังเป็นอาหารที่ดีต่อ สุขภาพมากอีกด้วย อย่างที่หลายคนทราบว่าอาหารเกาหลีมีประโยชน์ต่อสุขภาพ แน่ล่ะยังมีดูบันจางของจีน และซุปมิโซะของญี่ปุ่น แม้ว่าจะคล้ายดอนจางของเกาหลีแต่อาหารทั้งสองชนิดนั้นไม่ได้มาจากการหมัก ด้วยกระบวนการหมักนี้เองดอนจางจึงมีประโยชน์มาก ประโยชน์อย่างหนึ่งก็คือดอนจางมีสารต้านมะเร็ง นี่คือเหตุผลว่าทำไมนักท่องเที่ยวจึงนิยมซื้อดอนจางแทนที่จะเป็นซอสอื่นๆเมื่อไปที่โซล

- เวลาในการเตรียม: 20นาที
- เวลาในการปรุง: 12 – 15 นาที
- ขนาดรับประทาน: 3 คน

■ ส่วนผสม
ดอนจาง 4 ช้อนโต๊ะ น้ำแอนโชวี่ 3 ถ้วย เนื้อวัว 60 กรัม ซูกินี่ 1/3 ผล หัวหอม ¼ หัว ต้นหอม ½ ต้น พริกไทยแดง 1 เม็ด พริกไทยเขียว 1 เม็ด เห็ดหอม 2 ดอก เต้าหู้ ¼ ผงพริกไทยแดง 1 ช้อนโต๊ะ กระเทียม 1 ช้อนโต๊ะ

■ วิธีทำ

1. เนื้อวัวแล่ ต้นหอมหั่น พริกแดงเผ็ด พริกไทยเขียวและซูกินี่หั่นยาว 0.5 ซม
2. หั่นเห็ดหอมและหัวหอมใช้เป็นชิ้นกว้าง 0.5 ซม
3. หั่นเต้าหูให้เป็นสี่เหลี่ยมลูกเต๋าขนาด ½ ซม
4. ใส่เนื้อและดอนจางลงในหม้อเคี่ยว (ตุ๊กแบจิ) เติมน้ำสต๊อก นำไปตั้งไฟ
5. เมื่อน้ำเดือดใส่เห็ด ซูกินี่ หัวหอม พริกไทยและเต้าหู้ตามลำดับ
6. ใส่ต้นหอม กระเทียมและผงพริกไทยแดง
7. ยกลงจากเตาเสิร์ฟคู่กับบอริบับ